นาฏศิลป์ไทย เป็นศิลปวัฒนธรรมที่งดงาม สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน สะท้อนความเป็นเอกลักษณ์ของชาติไทยผ่านท่วงท่าการร่ายรำอันอ่อนช้อย สวยงาม และแฝงไปด้วยความหมาย ปัจจุบัน การแสดงรำไทยได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ทั้งในงานพิธีสำคัญ งานมงคล และงานระดับนานาชาติ
มาทำความรู้จักกับ รูปแบบการแสดงรำไทยยอดนิยม ที่มักถูกนำมาแสดงในงานต่าง ๆ กันครับ
เป็นการรำที่จัดขึ้นในโอกาสมงคล เพื่อมอบความสุข ความเจริญ และความเป็นสิริมงคลแก่ผู้ชม นิยมในงานขึ้นบ้านใหม่ งานมงคลสมรส งานเลี้ยงรับรอง รวมถึงงานพิธีทางราชการ บทเพลงที่ใช้มักเป็นเพลงช้า ฟังสบาย และท่ารำแสดงถึงความนอบน้อม
รำที่มีจังหวะสนุกสนาน เน้นความร่วมสมัย เหมาะสำหรับงานเลี้ยงหรืองานรื่นเริง ใช้ผู้แสดงชายและหญิงร่ายรำเป็นคู่ ๆ โดยมีท่ารำที่กำหนดไว้อย่างเป็นมาตรฐาน เช่น จับมือ, ชักแป้งผัดหน้า, แขกเต้าเข้ารัง
ศิลปะการฟ้อนที่มีต้นกำเนิดจากภาคเหนือ แสดงถึงความอ่อนช้อยของผู้หญิง นิยมใช้ในการต้อนรับแขกผู้ใหญ่หรือพิธีสำคัญ ผู้แสดงจะสวมเล็บยาวหรือถือเทียน เพิ่มความวิจิตรสวยงาม
การแสดงที่มีผู้แสดงตั้งแต่ 4 คนขึ้นไป ท่ารำจะมีแบบแผนชัดเจน เช่น ระบำไก่ ระบำชาวนา ระบำดอกบัว เป็นการสะท้อนชีวิตความเป็นอยู่ วิถีไทย และความเชื่อของคนในสังคม
เป็นการแสดงพื้นบ้านที่เน้นความสนุกสนาน เร้าใจ ใช้เสียงกลองเป็นเครื่องกำกับจังหวะ เหมาะสำหรับงานแห่ งานบุญ งานประเพณีต่าง ๆ มีทั้งผู้รำและผู้เล่นดนตรีประกอบอย่างครึกครื้น
รำเพื่อแสดงความกตัญญู ความเคารพต่อผู้ใหญ่ ครูบาอาจารย์ หรือผู้เกษียณอายุราชการ เป็นการแสดงที่สง่างาม อ่อนช้อย และแฝงด้วยความหมายลึกซึ้ง นิยมใช้ในงานเกษียณอายุ และงานเชิดชูเกียรติ
เป็นการรำที่ผสมผสานศิลปะการเล่าเรื่อง ใช้บทพากย์ ดนตรี และการแต่งกายอันวิจิตรอลังการ เช่น ตอนหนุมานจับนางสุพรรณมัจฉา หรือรามเกียรติ์ตอนต่าง ๆ
รูปแบบการแสดงรำไทย มีความหลากหลาย ทั้งแบบอ่อนช้อย สง่างาม ไปจนถึงสนุกสนาน เร้าใจ เหมาะกับโอกาสต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นงานมงคล งานประเพณี งานเลี้ยง หรือการแสดงต้อนรับแขกผู้ใหญ่ ซึ่งการรำไทยยังคงเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์และเผยแพร่ให้คนรุ่นหลังได้ภาคภูมิใจ